ในชีวิตนี้ คุณเก่งอะไรที่สุด???
และสิ่งนั้น “ทำเงิน” ให้คุณได้ ?
ถ้าถามผม เอาเท่าที่ประเมินตัวเอง
(แบบไม่หลงตัวเอง พยายามถอด “อัตตา” ออกให้หมด แล้วเอาผลลัพธ์แบบรูปธรรมเป็นตัวประเมิน)
ผมว่า ผมเก่งเรื่อง
✅“โน้มน้าวใจคน”✅
ฟังดูแล้วออกแนวลบๆ หน่อยใช่ไหมครับ
ใครบ้างล่ะ ชอบถูกโน้มน้าวใจ
เช่น ดิฉัน/ผม ถูกโน้มน้าวใจให้ทำโน่น ทำนี่
ฟังดูทะแม่งๆ ใช่ไหมครับ
ดังนั้น
ผมจึงใช้วิธีการที่เรียกว่า
❤️“โน้มน้าวใจให้ win-win” ❤️
คือโน้มน้าวไปแล้ว ชนะทั้งสองฝ่าย
ผู้โน้มน้าวก็ได้ประโยชน์
ผู้ถูกโน้มน้าวก็ได้ประโยชน์
❌หากเป็น win-lose
นั่นไม่ใช่การโน้มน้าวที่ผมหมายถึง
ถ้าใครไปโน้มน้าวใคร แล้ว ผู้ถูกโน้มนาวเสียเปรียบหรือเสียประโยชน์
ผมเรียก “วิถีโจร” ??♂️
ก็ไปเอาเปรียบเขา ทำให้เขาเสียหาย
คำว่า “โจร” จึงไม่น่าแรงไป
คำว่า “โน้มน้าว” เอาความหมายง่ายๆบ้านๆเลย แปลว่า
“การทำให้ผู้อื่นกระทำตามอย่างที่เราต้องการ”
จริงๆ แล้ว เราโน้มน้าวกันทุกวันในทุกแง่มุมของชีวิต
เริ่มตั้งแต่เรื่องเล็กๆ ยันเรื่องใหญ่ๆ
?เช่นถ้าวันนี้ คุณอยากกินข้าวนอกบ้าน แฟนบอกทำกินที่บ้าน
คุณจะโน้มน้าวใจยังไงให้เขาไปกินนอกบ้านกับคุณ
และให้เขารู้สึกดีที่จะออกไปกับคุณด้วย
ตามหลัก win-win ไง
??คุณไปสมัครงาน สัมภาษณ์งาน
คุณจะโน้มน้าวใจนายจ้างให้รับคุณเข้าทำงานได้ยังไง
?คุณอยากเลื่อนตำแหน่ง คุณจะทำยังไง คุณจะโน้มน้าวใจยังไงให้เขาเลื่อนตำแหน่งให้คุณ
ไม่ใช่โน้มน้าวด้วยคำพูดอย่างเดียว การโน้มน้าวมีหลายแบบ รวมไปถึงการทำดี ส่งคุณค่าให้ผู้คนด้วย
หากเขาเห็นว่าคุณทำดี บางทีไม่ต้องใช้คำพูดโน้มน้าว การกระทำก็เสียงดังกว่าคำพูด
?คุณชอบสาว ชอบหนุ่มคนหนึ่งมากๆ เธอสวย เขาหล่อ นิสัยดี
คุณจะโน้มน้าวใจ หรือ จีบเธอ/เขา ยังไง
(ท่านชายอย่าลืมนะครับ win-win คุณต้องรักและหวังดีกับเธอจริงๆ นะครับ
ไม่ใช่แค่ รักจริงหวังยิงสเปิร์ม)
หรือ
?คุณอยากควบรวมกิจการ ซื้อบริษัท (Mergers & Acquistions)
คุณต้องโน้มน้าว ผู้ถือหุ้น ผู้ขาย ฯลฯ
ให้ดีลเป็นไปตามที่คุณต้องการยังไง?
ผมใช้หลักการนี้หาเงินตั้งแต่อายุ 20 ต้นๆ
ด้วยการเป็นตัวแทนประกันชีวิตครับ
ผมเอาหลักการ “โน้มน้าวใจ” มาประยุกต์กับการขาย
ผมประยุกต์ใช้ในทุกๆ ขั้นตอนของการขาย
?เช่น
ถ้าลูกค้าบอกว่าเขา “ไม่มีความจำเป็นต้องซื้อประกัน”
คุณจะโน้มน้าวใจเขายังไง???
ผม: คุณลูกค้าครับ ผมเห็นด้วย 101%เลยครับ
ว่าพี่ไม่มีความจำเป็นเรื่องประกันเลยครับ
ตัวพี่ไม่ได้เดือนร้อนอะไร
เจ็บป่วยขึ้นมาก็มีสวัสดิการของบริษัท
เงินเก็บก็มี
ผมพูดถูกไหมครับ?
ผมขอถามอะไรตรงๆ สักข้อครับ
สมมติเมื่อวานนี้ (เหตุการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นจริง) เราไปเที่ยวสวรรค์แล้ว
วันนี้จะมีคนที่จำเป็นต้องใช้ ประกันชีวิตเกิดขึ้นไหมครับ
ใช่ครับ เราอยู่บนสวรรค์ เงินชดเชยก้อนโตจากบริษัทประกันชีวิตย่อมไม่จำเป็นสำหรับเราหรอกครับ
เพราะคนที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ คือ คนที่พี่รักและห่วงใย
ภรรยา และ ลูกๆ ที่น่ารักของพี่ไงครับ
จากนี้ไป จะไม่มีรายได้จากสามี และ คุณพ่ออีกแล้วตลอดกาล
แต่พวกเขายังต้องกินต้องใช้ ต้องดำเนินชีวิตต่อไป
ภรรยายังต้องเลี้ยงลูกให้เติบโต
หนูน้อยก็ยังต้องเรียนอีกหลายปี
ผมเชื่อจากหัวใจว่าพี่ไม่ปรารถนาให้ภรรยาต้องทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูลูกแน่ๆ พี่อยากให้เธอดูแลลูกให้เต็มที่ ไม่ต้องมาลำบาก กังวลเรื่องการหารายได้เลี้ยงชีวิต
เห็นด้วยไหมครับว่า ในสถานการณ์ที่ยากลำบากนั้น
เงินประกันก้อนโต “จำเป็น” กับคนที่พี่รัก…แล้ว
ที่สำคัญ
พวกเขามาขอให้พี่สร้างหลักประกันให้เขาไม่ได้ครับ
ขอให้ผมได้ทำหน้าที่นี้แทนคนที่พี่รักนะครับ
ชีวิตเขาอยู่ในมือพี่แล้วครับ
กรุณาเซ็นตรงนี้ (พร้อมยื่นปากกา มองหน้าเขาด้วยความจริงใจ)
8 ใน 10 ของลูกค้า จะยอมเซ็นครับ
ผมว่าคนทุกคนมีความรัก และ อยากปกป้องคนที่เขารัก
แค่เพียงเราจริงใจ และ โน้มน้าวใจให้ win-win ให้เป็นครับ
ประโยชน์ก็เกิดทั้งสองฝ่าย
สิ่งนั้นทำให้ผมเป็นนักขายประกัน Of the Year มาหลายปี
และทำให้ผมสร้างรายได้ 6 หลักต่อเดือน ได้ตั้งแต่เรียนจบ
จนสร้างเงินล้านได้ ท่องเที่ยวเกินกว่า 60 ประเทศทั่วโลก
ผมสร้างชีวิตจากทักษะนี้
จวบจนเป็นผู้บริหาร ได้ใช้ทักษะ การโน้มน้าวใจ ในการบริหารทีมงาน
เป็นผู้บริหารระดับสูง
และเป็นวิทยากรบรรยายทั่วประเทศ
จนมาทำธุรกิจส่วนตัว
ธุรกิจเบอร์สวย ทะเบียนสวย
จำหน่ายป้ายทะเบียนราคาตั้งแต่หลักหมื่นยัน หลายล้านบาท
คุณจะโน้มน้าวใจ ให้เขาซื้อยังไง
ป้ายราคาเป็นแสน เป็นล้าน ทำไมเขาถึงต้องซื้อกับคุณ?
มันมี “ศาสตร์” แห่งการโน้มนาวใจอยู่จริง
และผมใช้มัน…
✅ถูกที่
✅ถูกเวลา
✅ถูกบุคคล
ผมจึงปิดการขายป้ายทะเบียนราคาใบละเกินล้าน สองล้านกว่าบาท
หรือดีลธรกิจอื่นๆ ได้มากมาย
ด้วยเทคนิค❤ “การโน้มน้าวใจให้ win-win”❤
?ผมกล้าพูดตรงนี้ และยืนยันว่า “มันเวิร์ค”
ถ้าคุณใช้มันเป็น
และที่สำคัญ
#เทคนิคนี้เรียนรู้ได้และส่งต่อได้
??คุณสามารถสร้างธุรกิจโดยไม่ต้องใช้เงินสักบาทก็ยังได้ และสามารถจับเงินแสนโดยที่คุณไม่มีต้นทุนเงินเลยโดยใช้ทักษะนี้ล้วนๆ และลงมือทำงานหนักอย่าง “จริงจัง”
?ถ้าคุณอ่านถึงตรงนี้ และคุณยังไม่เชื่อว่าตัวคุณเองจะทำได้ ก็เป็นข้อพิสูจน์ว่า ??ระบบความคิดที่จะจับเงินแสนเงินล้านของคุณ มันเสียหายตรงไหนสักแห่ง
หรืออาจไม่เสีย แต่คุณไม่อยากได้มันจริงๆ จึงไม่เกิดการลงมือทำ
?ระบบความคิดมนุษย์ก็เหมือนกลไกอะไรสักอย่าง มันปรับเปลี่ยน มันซ่อมแซม แก้ไขได้ หากเจอช่างฝีมือดี (ครู อาจารย์ หรือ โค้ช ที่บอกคุณได้ว่าต้องแก้ที่ตรงไหน)
✅ผมทำได้แล้ว พิสูจน์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และมันได้ผล✅
ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะเหลือเกิน
ผมจะค่อยๆ ทยอยเขียนให้อ่าน
ถ้ามีเวลาจะ Live สอนกันให้รู้แจ้งกันไป
?♀️หลายคนอาจสงสัย
แล้วเขียนให้อ่านทำไมวะ
อยาก show off?
อยาก โชว์ว่าตัวเองเก่ง ว่างั้น!!???
❎NO!!!
ผมไม่ได้ห่วงตัวเอง
และผมไม่แคร์ด้วย ว่าคุณจะมองผมยังไง
เพราะยังไง
เวลาคุณหรือผมทำอะไร
จะมีคนตัดสินผม
และมีคนตัดสินคุณอยู่ดี
✅คำตอบ✅
ผมมีเป้าหมายชีวิตของผม
“ผมอยากมีความสุขครับ”
ความสุขที่สุดคือเห็นคนที่ผมสอนประสบความสำเร็จในชีวิตของเขา
สำเร็จด้านไหนบ้าง:
?ด้านการเงิน => มีเงินใช้ตอบโจทย์ความฝัน
?ด้านครอบครัว=> ชีวิตคู่ ครอบครัว การมีความรักที่งดงาม
?♂️สังคม => มิตรภาพที่จริงใจที่เงินซื้อไม่ได้ ต้องเอาความจริงใจไปแลกมา การมีจิตสาธารณะ
?♂️ผมเดินทางไปหลายประเทศ
ผมเห็น…สังคมที่สงบสุข????
คนให้เกียรติกัน แคร์กัน
ผมเห็นแล้ว รูปแบบ และหน้าตาเป็นยังไง
ผมอยากให้มันเกิดขึ้น ดีขึ้น ที่ #บ้านของเรา
ถึงผมจะเปลี่ยนได้มากหรือน้อย ไม่ใช่ประเด็นสำคัญเท่ากับ เราได้ลงมือทำบางสิ่งบางอย่าง ไม่นิ่งดูดายหรือแค่ขยับปากวิพากษ์วิจารณ์ แต่ไม่เคยได้ทำอะไร
#อนุสาวรีย์เขาสร้างให้คนลงมือทำ ไม่ใช่ คนวิจารณ์
แต่วิถีของการที่ผมจะมีความสุข ก็ต้องทำให้ทุกคนมีความสุขเสียก่อน
ผมต้องการให้ทุกคนมีรายได้ที่จะทำฝันของเขาให้เป็นจริง
ผมไม่ได้ motivate ว่า คุณต้องรวยล้นฟ้า ไม่ใช่!!!!
ความสำเร็จของคนไม่เท่ากัน
อย่าหลงติดกับดัก “ความสำเร็จแบบสำเร็จรูป”
ต้องมีวัตถุบรรดามีทั้งหลาย มันแค่ส่วนหนึ่ง ไม่ใช่ทั้งหมด
ถ้าประชากรในประเทศไทยมีรายได้เกินค่าเฉลี่ย
เอาเป็นว่า ถ้าคนไทยมีรายได้หกหลักต่อเดือน
สัก 70-80% ของประชากร
ชาติเราจะพัฒนาครับ
เกี่ยวยังไง
มาวิเคราะห์เชิงตรรกะครับ
ไม่ได้เปรียบเทียบใครดีใครเลวนะ (ดักไว้ก่อน)
มนุษย์ทุกคนมีคุณค่า มีศักดิ์และศรีเท่ากัน
คุณคิดว่า
ขอทานที่นั่งอยู่ริมถนนคิดอะไร?
คิดว่าวันนี้จะมีเงินพอซื้อข้าวกินไหม
เขาจะคิดไปไกลว่านั้นไหม?
คนเงินเดือน 7,000 บาท คิดอะไร?
คิดว่าเดือนนี้เงินจะพอใช้ไหม
เขาอยากช่วยคนนั้น คนนี้ให้มีการศึกษาที่ดี
เขาอยากช่วยลูก ส่งลูกเรียนโรงเรียนดีดี
เพื่อจะได้ไม่ลำบากแบบเขา ทำได้ไหม?
คนเงินเดือน 15,000 คิดอะไร?
จะพอ ผ่อน จ่ายหนี้บัตรไหม
เขาจะคิดไกลขนาดบริจาคสัก 5,000 บาท
ให้เพื่อนที่กำลังป่วยได้ไหม?
?คุณสังเกตอะไรไหม ระดับรายได้ส่งผลต่อความคิด
คนมีรายได้เดือนละ 300,000 บาทไม่มีภาระหนี้ใดๆ
น่าจะคิดอะไร ?♂️
ผมเชื่อว่า ส่วนใหญ่ถึงระดับนี้ก็จะคิดไกลตัวออกไป
และถ้าเขาเป็นคนมีความสุข (จริงๆ)
มีแนวโน้มที่เขาจะแบ่งปันความสุข และสร้างประโยชน์ให้ผู้อื่น
อย่างน้อยเขาก็จะไม่ทำให้คนอื่นทุกข์ ถ้าเขามีความสุขจริงๆ
?ถ้าคนมีความสุข มีรายได้มาก ก็จะช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยาก
?♂️(ถึงตรงนี้ใครบางคนอาจบอกว่า ผมกำลังวิ่งสโลว์โมชั่นในทุ่งลาเวนเด้อ)
จากประสบการณ์ชีวิตของผม
❤ส่วนใหญ่ คนมีเงิน คนรวย จะชอบช่วยเหลือคนครับ
การช่วยคนแบบยั่งยืนก็อุปมาเหมือน
จับปลาให้กิน?
กับ
สอนวิธีจับปลา
วิธีการที่ยั่งยืนในการพัฒนามนุษย์ คือ “พัฒนาแนวคิด”
ผมจะสอนให้พวกเขาทำเป็นด้วยตัวเอง ดีกว่ายื่นเงินให้ตลอดไป
แต่บอกเลยครับว่า
ไม่ทุกคน ที่สามารถเรียนรู้และใช้ทักษะนี้ได้
ไม่ง่าย แต่ เป็นไปได้ครับ
สรุป
ผมจะสอนเทคนิค “การโน้มน้าวใจให้ win-win”
ให้กับคนที่สนใจจะพัฒนาตนเองและอยากเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทิศทางที่ดีขึ้น
เช่น
✅-อยากเพิ่มยอดขายสินค้า
✅-อยากสร้างทีมงานให้ธุรกิจแข็งแรง
✅-มีรายได้มากกว่าเดิม 3 – 10 เท่า
✅-อยากใช้เทคนิคนี้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนมนุษย์
✅-อยากตอบแทนพระคุณพ่อแม่
✅-อยากให้ลูกๆ มีการศึกษาที่ดี
✅-อยากให้คนที่รักไม่ต้องเหนื่อย จะขอดูแลเขาเอง
ฯลฯ
ถ้าคุณรู้ “ความลับ” นี้
คุณเข้าใจมัน
คุณใช้ทักษะนี้เป็น
คุณจะได้สิ่งที่คุณต้องการ
ความเห็นล่าสุด